วันจันทร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2557

ก้าวไกลสู่อาเซียน










ASEAN (อาเซียน) ย่อมากจาก Association of South East Asian Nations หรือก็คือ สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

อาเซียน เป็นองค์การทางภูมิศาสตร์และเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีด้วยกัน 10 ประเทศ คือ

1.ประเทศไทย
2.ประเทศกัมพูชา
3.ประเทศบรูไน
4.ประเทศพม่า
5.ประเทศฟิลิปปินส์
6.ประเทศมาเลเซีย
7.ประเทศลาว
8.ประเทศเวียดนาม
9.ประเทศสิงคโปร์
10.ประเทศอินโดนีเซีย

อาเซียนมีพื้นที่ราวๆ 4,435,670 ตารางกิโลเมตรและมีประชากรราวๆ 590 ล้านคน



ในปีพุทธศักราช 2553 จีดีพีของประเทศสมาชิกคิดรวมกันเป็นมูลค่าราว 1.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หากเรียงตามจีดีพีคิดเป็นลำดับที่ ของโลก มีภาษาอังกฤษเป็นภาษาทางการ

*จีดีพี (GDP) ย่อมาจาก Gross Domestic Product ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือก็คือ มูลค่าตลาดของสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายที่ถูกผลิตในประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง โดยไม่คำนึงว่าผลผลิตนั้นจะผลิตขึ้นมาจากทรัพยากรของชาติใด

อาเซียนกำเนิดมาจากสมาคมอาสา ซึ่งก่อตั้งเมื่อเดือนกรกฎาคม ปีพุทธศักราช 2504 โดยประเทศไทย มาเลเซียและฟิลิปปินส์ ต่อมาในปีพุทธศักราช 2510 ได้มีการลงนามในปฏิญญากรุงเทพ อาเซียนจึงได้ถือกำเนิดโดยมีรัฐสมาชิกเริ่มต้น 5ประเทศ คือ ประเทศไทย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ มาเลเซียและฟิลิปปินส์ มีวัตถุประสงค์คือการร่วมมือกันในการเพิ่มอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ การพัฒนาสังคม วัฒนธรรมในกลุ่มประเทศสมาชิก การธำรงรักษาสันติภาพ ความมั่นคงในภูมิภาคและการเปิดโอกาสให้คลายข้อพิพาทระหว่างประเทศสมาชิกอย่างสันติ


*ปฏิญญากรุงเทพ (Bangkok Declaration) หรือ ปฏิญญาอาเซียน (ASEAN Declaration) คือเอกสารในการก่อตั้งอาเซียน ซึ่งได้รับลงนาม ณ กรุงเทพมหานคร โดยกำหนดหลักการเบื้องต้นของอาเซียน อย่างเช่น การร่วมมือกันและการไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวต่อสถานการณ์ภายในประเทศสมาชิกทั้งหมด


    


1.ประเทศไทย
การศึกษาภาคบังคับในประเทศไทยเริ่มมีขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 2464 ตามกฎหมายไทย รัฐบาลจะต้องจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานแบบให้เปล่าแก่ประชาชนเป็นเวลา 12 ปี ส่วนการศึกษาภาคบังคับในปัจจุบันกำหนดไว้ 9 ปี ระบบโรงเรียนที่จัดไว้มีตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล ประถมศึกษา และมัธยมศึกษาตอนต้นตามลำดับ แต่หลังจากจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นแล้ว บุคคลสามารถเลือกได้ระหว่างศึกษาต่อสายสามัญในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือเลือกศึกษาสายวิชาชีพ หรืออาจเลือกศึกษาต่อในสถาบันทางทหารหรือตำรวจ
          ในการศึกษาต่อในระดับ
อุดมศึกษา นักเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจะต้องผ่านระบบการรับบุคคลเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ซึ่งโดยปกติจะเสร็จสิ้นในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 มหาวิทยาลัยในประเทศไทยได้รับการยอมรับในระดับสากล ได้แก่ มหาวิทยาลัยมหิดล และ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งติดอยู่ในอันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในเอเชียจาก QS Asian University Rankings 2011
          แต่กระนั้น ก็ยังมีความเป็นห่วงในประเด็นด้านระดับเชาวน์ปัญญาของเยาวชนไทย หนังสือพิมพ์ 
เดอะ เนชั่นรายงานเมื่อ พ.ศ. 2548 ว่า "กรมอนามัยและกรมสุขภาพจิตจะต้องรับมือกับความฉลาดที่ต่ำลง หลังจากได้พบว่าระดับเชาวน์ปัญญาโดยเฉลี่ยในกลุ่มเยาวชนต่ำกว่า 80" การวิจัยซึ่งกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข เผยแพร่เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2554 ระบุว่า เด็กไทยมีระดับเชาวน์ปัญญา -70 ซึ่งต่ำที่สุดในทวีปเอเชีย โดยเด็กไทยภาคตะวันออกมีสติปัญญาน้อยที่สุด สูงขึ้นมาจึงเป็นภาคใต้ ภาคเหนือ และภาคกลางตามลำดับอนึ่ง ในการจัดการศึกษาไทย ยังมีการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์อย่างจำกัดมากด้วย
2.ประเทศกัมพูชา

            การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง และเศรษฐกิจสังคม นำไปสู่การปฏิรูปด้านการศึกษาของกัมพูชาก่อนปี พ.ศ.2518 ประเทศไทยยึดระบบการศึกษาแบบฝรั่งเศสซึ่งให้มีการศึกษาภาคบังคับ 13 ปี ภายหลังปี พ.ศ. 2522 กระทรวงศึกษาฯใช้ระบบการศึกษาแบบ 10 ปี และต่อมาได้ขยายเป็นแบบ 11 ปี และใช้สืบเนื่องจากปี พ.ศ.2529 ถึง 2539

            กระทรวงศึกษาฯ ยังคงดำเนินการพัฒนาระบบการศึกษา มีการ ปฏิรูปหลักสูตร มีการพัฒนาตำราเรียนใหม่และนำเทคนิคการสอนใหม่ๆ มาให้กับครูเพื่อเตรียมสำหรับการนำระบบการศึกษาแบบ 12 ปีมาใช้ ในปีการศึกษา 2539 – 2540 โดยระบบใหม่นี้ จะแบ่งเป็นการศึกษาก่อนประถมศึกษา ปี ประถมศึกษา ปี มัธยมศึกษาตอนต้น ปี มัธยมศึกษาตอนปลาย ปี และระดับอุดมศึกษา 4 – 7 ปี ส่วนการจัดการศึกษาด้านอาชีวะและเทคนิคจัดให้ตั้งแต่ ปี ไปจนถึง  3 – 5 ปีการจัดการศึกษาระดับอุดมศึกษานี้ บางสถาบันการศึกษาอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงเกษตรสาธารณสุขหรือแรงงาน การจัดการศึกษานอกระบบจะเน้นการฝึกทักษะ ให้กับประชาชน
3.ประเทศบรูไนดารุสซาลาม
ประเทศบรูไนดารุสซาลามไม่มีการศึกษาภาคบังคับ แต่การศึกษาเป็นสากล และจัดให้ฟรีสำหรับประชาชนทั่วไป การศึกษาแบ่งออกเป็นระดับ ดังนี้
          1.  ระดับปฐมวัย การศึกษาระดับปฐมวัยเริ่มต้นจากการศึกษาในเกรด ซึ่งเป็นการศึกษาระดับชั้นต้นของนักเรียนที่สามารถเข้าสู่ระบบการศึกษาได้  โดยระบบการศึกษาปฐมวัยมีทั้งหมด ระดับ ตั้งแต่ช่วงอายุ ปี ถึง 13 ปี ครอบคลุมระยะเวลา ปี โดยการเลื่อนเกรดนั้นจะทดสอบนักเรียนโดยการทำข้อสอบระดับชาติเพื่อรับประกาศนียบัตรชั้นต้น
          2.  ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เป็นช่วงการศึกษาที่สูงขึ้นมาจากการศึกษาปฐมวัย โดยเริ่มจากการศึกษาในเกรด 8ถึง เกรด 10 ครอบคลุมระยะเวลาเรียน ปี ช่วงอายุนักเรียนอยู่ระหว่าง 13-15 ปี ผู้ผ่านการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นของประเทศบรูไน จะได้รับประกาศนียบัตร
          3.  ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เป็นช่วงการศึกษาที่สูงขึ้นมาจากมัธยมศึกษาตอนต้น โดยเริ่มจากเกรด 11 ถึง เกรด12 ช่วงอายุนักเรียนจะอยู่ระหว่าง 15-17 ปี ผู้ผ่านการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายของประเทศบรูไน จะได้รับประกาศนียบัตร
          4.  หลักสูตรเตรียมอุดมศึกษา ครอบคลุมระยะเวลา ปี เป็นหลักสูตรเพื่อเตรียมตัวนักเรียนเข้าสู่การศึกษาชั้นสูงในระดับมหาวิทยาลัย
          5.   การศึกษาระดับปริญญาตรีจะจัดให้กับเด็กที่มีผลการศึกษาดี มีศักยภาพในการศึกษาต่อได้ หรือศึกษาในสาขาที่เป็นความต้องการของประเทศ ซึ่งมีทั้งมหาวิทยาลัย สถาบันอาชีวะ และเทคนิคต่าง ๆ วิทยาลัยต่าง ๆ
ปรัชญาทางการศึกษา
ปรัชญาด้านการศึกษาตั้งอยู่บนพื้นฐานของปรัชญาประจำชาติของราชวงศ์อิสลามซึ่งผนวกองค์ประกอบสำคัญสองประการเข้าด้วยกัน
วิสัยทัศน์ทางการศึกษา
            เพื่อทำให้คนบรูไนให้มีชีวิตที่สมบูรณ์และมีความสุขพันธกิจ   กระทรวงศึกษาธิการปรารถนาที่จะให้การศึกษาแก่ประชาชนชาวบรูไนโดยการดำเนินการ และการปรับปรุงระบบการศึกษาให้มีคุณภาพ เอกลักษณ์ และมีความสมดุล เพื่อสร้างคนที่สมบูรณ์ และมีคุณค่าทั้งต่อศาสนา ประเทศชาติ และเผ่าพันธุ์
นโยบายการศึกษา
-จัดระบบการศึกษาของชาติโดยเน้นความสำคัญของภาษามาเลย์ในฐานะที่เป็นภาษาประจำชาติที่เป็นทางการและใช้ภาษาอื่นๆนการสอนเช่นภาษาอังกฤษภาษาอาหรับ
            -จัดให้มีการศึกษา12ปีแก่นักเรียนทุกคน
            -จัดหลักสูตรแบบบูรณาการซึ่งเหมาะสมและสอดคล้องกับข้อสอบของแต่ละระดับการศึกษา
            -จัดให้มีการสอนอิสลามศึกษาไว้ในหลักสูตรการเรียนการสอนในโรงเรียน
            -จัดให้มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการสอนวิชาคณิตศาสตร์,วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางการสื่อสารเพื่อให้นักเรียนมีความรู้และมีทักษะที่สำคัญและจำเป็นสำหรับโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
            -จัดกิจกรรมหลักสูตรแกน(เน้นวิชาบังคับ)ที่สอดคล้องกับปรัชญาการศึกษาแห่งชาติไว้ใโปรแกรมการพัฒนาตนเอง
            -เปิดโอกาสทางการศึกษาระดับอุดมศึกษาให้แก่ผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมและมีประสบการณ์และมีความต้องการที่จะเรียนต่อในระดับดังกล่าว
            -จัดเตรียมอุปกรณ์และโครงสร้างพื้นฐานทางการศึกษาเพื่อตอบสนองความต้องการของชาติ
            - พัฒนาขีดความสามารถด้านสติปัญญา จิตใจ อารมณ์ สังคม และร่างกายของแต่ละบุคคล เพื่อเป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับพัฒนาสังคม

4.ประเทศพม่า
กระทรวงศึกษาธิการของพม่า เป็นผู้รับผิดชอบในการบริหารการศึกษาของประเทศ ใช้ระบบการศึกษาเป็นระบบ 5:4: 2ดังนี้
1.  ประถมศึกษา5ปี(อนุบาล1ปีและประถม4ปี)
2.  มัธยมศึกษาตอนต้น4ปี
3.  มัธยมศึกษาตอนปลาย2ปี
4.  อาชีวศึกษา1-3ปีอุดมศึกษา4-6ปี
 
            แบบเรียนสำหรับการศึกษาระดับพื้นฐานทั้งหมด ผลิตโดยกองตำราและหลักสูตการศึกษาพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ แบบเรียนที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนั้นส่วนมากยังคงเนื้อหาเดิมที่ใช้มาตั้งแต่ยุคสังคมนิยม อาทิ ในเนื้อหาด้านประวัติศาสตร์แบบเรียนจะเน้นการต่อสู้เพื่อเอกราช วีรบุรุษ วีรกษัตริย์ วีรกรรม กองทัพ และจิตใจรักชาติ ส่วนแนวคิดแบบสังคมนิยมยังปรากฏในชั้นมูลและชั้นกลาง
กรมอุดมศึกษาทำหน้าที่วางแผนนโยบายและดำเนินการด้านอุดมศึกษาของประเทศจัดการศึกษาในรูปแบบของมหาวิทยาลัยใน 3 เมืองสำคัญ คือ มหาวิทยาลัย Yangon Mandalay และ Manlamyine นอกจากนี้ยังมีสถาบันเทคโนโลยีที่จัดการศึกษาวิชาชีพระดับสูงที่ใช้เวลาในการศึกษา 4-6 ปี ตามลักษณะวิชาอีกด้วย
จากการพิจารณาแบบเรียนระดับพื้นฐานของพม่าทั้งหมดมีข้อสังเกตโดยสรุปว่า นโยบายทางการศึกษาของพม่านั้นได้ให้ความสำคัญต่อแนวคิดชาตินิยมด้วยการต่อต้านระบบทุนนิยมแบบอาณานิคม
  
5.ประเทศฟิลิปปินส์
        การจัดการศึกษาของฟิลิปปินส์ในปัจจุบัน  ได้รับมาจากระบบการศึกษาของสหรัฐอมเริกา  ประชากรชาวฟิลิปปินส์ให้ความสำคัญกับการศึกษาเป็นอย่างมาก  เพราะเห็นว่า  การศึกษามีคุณค่าต่อการพัฒนาบุคคลและประเทศ  การจัดการศึกษาทุกประเภทต้องอยู่ในความรับผิดชอบของส่วนกลาง  คือ  กระทรวงศึกษาธิการและวัฒนธรรม
ระบบการศึกษาของประเทศฟิลิปปินส์มีทั้งแบบที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ
        การศึกษาแบบเป็นทางการ  มีลำดับขั้นตอนการเรียน  3  ระดับ  คือ
1.  ระดับประถมศึกษา
ใช้เวลาศึกษาภาคบังคับ  6 ปีที่โรงเรียนของรัฐบาล หรือ 7 ปีในโรงเรียนของเอกชน
นอกเหนือจากหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยซึ่งนักเรียนสามารถเลือกเรียนได้  โดยการศึกษาระดับนี้รวมไปถึงการเรียนชั้นอนุบาล และอาจเป็นหลักสูตรเตรียมประถมศึกษาก็ได้  นักเรียนที่มีอายุระหว่าง  2-3 ปี จะเข้าเรียนในสถานรับเลี้ยงเด็กก่อนวัยเรียนจนกระทั่งมีอายุครบ 5-6 ปี จึงจะเลื่อนขึ้นชั้นประถมศึกษา

             2.  ระดับมัธยมศึกษา
ใช้เวลา ปี โดยนักเรียนต้องเรียนจบชั้นประถมศึกษาตอนปลายก่อน นักเรียนส่วนใหญ่ที่เรียนชั้นมัธยมศึกษาจะมีอายุ 12 ปี และเรียนจบเมื่ออายุ 15 ปี
3.  ระดับอุดมศึกษา
นักเรียนส่วนใหญ่จะมีอายุประมาณ 16 ปี การศึกษาระดับนี้แบ่งเป็นระดับปริญญาตรี ปริญญาโทและปริญญาเอก ในหลากหลายสาขาวิชา

        การศึกษาแบบไม่เป็นทางการ
การรับความรู้นอกโรงเรียนนั้นมีวัตถุประสงค์หลักสำหรับผู้เรียนกลุ่มเฉพาะ  เช่น เยาวชนหรือผู้ใหญ่ที่ไม่สามารถเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยได้  ตัวอย่างได้แก่หลักสูตรการศึกษาผู้ใหญ่ที่ไม่รู้หนังสือซึ่งบูรณาการการเขียน และการอ่านเบื้องต้นเข้ากับทักษะในชีวิตประจำวัน
หน้าที่ในการบริหาร ควบคุมและดำเนินการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(ระดับประถมและมัธยมศึกษา)  นั้นจะเป็นของแผนกการศึกษา วัฒนธรรม  และกีฬา การศึกษาจะดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ด้านการพัฒนาทักษะและการศึกษาด้านเทคนิคซึ่งยังมีหน้าที่ปฐมนิเทศ ให้การฝึกอบรมและการพัฒนาด้านทักษะอาชีพ

6.ประเทศมาเลเซีย
การศึกษาในมาเลเซียมีทั้งสถานศึกษาของรัฐบาล กึ่งรัฐบาล และเอกชน หลักสูตรประถมศึกษา ปี มัธยมศึกษา ปีซึ่งแบ่งเป็นมัธยมศึกษาตอนต้น ปี และมัธยมศึกษาตอนปลาย ปี หลังจากนั้นจะเป็นหลักสูตรเตรียมอุดมศึกษา 1-2 ปีเพื่อเตรียมความพร้อมทั้งทางด้านความรู้วิชาการสาขาที่เกี่ยวข้องและความสามารถด้านภาษาอังกฤษ และหลักสูตรระดับอุดมศึกษา หรือปริญญาตรี 3-4 ปี
-  ระดับมัธยมศึกษา
การศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ปีนั้นเป็นวิชาบังคับทั้งหมด ชั้นเรียนเรียกว่าฟอร์ม Form 1 – Form 3 ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายของ Form 4 และ Form 5 นักเรียนสามารถเลือกสาขาวิชาที่ต้องการเรียนได้ตามความสามารถและความสนใจ ไม่ว่าจะมุ่งเน้นไปในทางวิชาการวิทย์หรือศิลป์ หรือมุ่งเน้นทางด้านเทคนิค หรือทางด้านวิชาชีพ เมื่อนักเรียนสำเร็จการศึกษาในชั้นฟอร์ม แล้ว จะต้องสอบข้อสอบ SPM/SPMV ซึ่งเป็นข้อสอบของกระทรวงศึกษาธิการ หากสอบผ่านก็จะถือว่ามีวุฒิเทียบเท่ากับ GCSE 'O' Level นักเรียนสามารถไปสมัครศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา หรือหลักสูตรวิชาชีพได้
-  ระดับเตรียมอุดมศึกษา
นักเรียนจำเป็นต้องเลือกเรียน Form 6 และสอบ STPM ของรัฐให้ผ่าน เพื่อจะได้วุฒิเทียบเท่า GCSE 'A' Level หรือเลือกเรียน Matriculation กับสถาบันอุดมศึกษาโดยตรง เมื่อจบปีการศึกษาต้องผ่านการสอบในเกณฑ์มาตรฐานของมหาวิทยาลัยจึงจะสมัครเรียนต่อในหลักสูตรปริญญาตรีได้ ปัจจุบันมีโปรแกรมที่เป็นหลักสูตรร่วมของประเทศทางยุโรปที่น่าสนใจให้เลือก
-  ระดับอุดมศึกษา
การศึกษาในระดับ Certificate ใบประกาศนียบัตร ระดับ Diploma อนุปริญญา และระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก จัดอยู่ในระดับอุดมศึกษาซึ่งได้รับการดูแลให้อยู่ในมาตรฐานของกระทรวงศึกษาธิการของรัฐ
สถาบันหลายแห่งในมาเลเซียปัจจุบันได้จัดหลักสูตรแบบ Twinning Programme ร่วมกับสถาบันในประเทศแคนาดา อังกฤษ ออสเตรเลีย และอื่นๆ เพื่อให้เป็นที่ยอมรับทั่วโลกมากยิ่งขึ้น นักศึกษาจะได้รับปริญญาหรือใบประกาศนียบัตรจากประเทศที่ทำหลักสูตรร่วมกัน ในสถาบันชื่อดังจะมีอาจารย์มาจากประเทศทางยุโรปที่พูดภาษาอังกฤษเป็นหลักอยู่แล้ว มาจากประเทศที่ทำหลักสูตรร่วมกัน มาสอนที่มาเลเซีย และอุปกรณ์การเรียนการสอนทันสมัยและมีคุณภาพเท่าเทียมกับประเทศอื่นที่มีหลักสูตรร่วมกัน

7.ประเทศลาว
การจัดการศึกษาของลาวเริ่มด้วยการศึกษาในระดับอนุบาลและก่อนวัยเรียน โรงเรียนอนุบาลในประเทศลาวจะมีทั้งโรงเรียนที่เป็นของรัฐบาลและเอกชน เปิดรับนักเรียนตั้งแต่อายุ 3-6 ปี ใช้เวลาเรียน ปี แบ่งเป็นชั้นอนุบาล 1-3 เมื่อจบชั้นอนุบาลแล้วจะเข้าเรียนในระดับประถมศึกษาต่อไป
นับตั้งแต่ลาวได้เปลี่ยนการปกครองเมื่อปี ค.ศ.1975 (พ.ศ.2528) เป็นต้นมา ลาวได้ใช้ระบบการศึกษาเป็นแบบ 11 ปี คือระบบ 5 :3 :3 ดังนี้ 
• ประถมศึกษา ใช้เวลาในการศึกษา ปี เด็กจะเริ่มเข้าเรียนเมื่ออายุ ปี การศึกษาในระดับนี้คือเป็นการศึกษาภาคบังคับ เด็กทุกคนต้องจบการศึกษาในระดับนี้ แต่ในทางปฏิบัติการศึกษาภาคบังคับจะมีผลดีแต่เฉพาะเด็กในเมืองใหญ่เท่านั้น เนื่องจากลาวมีพื้นที่ประเทศกว้างขวางและประชากรกระจายกันอยู่
• มัธยมศึกษาตอนต้น ใช้เวลาในการศึกษา ปี และในอนาคตจะให้เด็กได้เรียนภาษาอังกฤษเพิ่มมากขึ้น
• มัธยมศึกษาตอนปลาย ใช้เวลาในการศึกษา ปี 
การศึกษาขั้นพื้นฐานในระบบ 5 -3 -3 นี้อยู่ในความดูแลและรับผิดชอบของกรมสามัญศึกษา
กระทรวงศึกษาธิการ
• อุดมศึกษาหรือการศึกษาชั้นสูง  รวมถึงการศึกษาด้านเทคนิค สถาบันการศึกษาชั้นสูงหรือมหาวิทยาลัย ซึ่งอยู่ในความดูแลและรับผิดชอบของกรมอาชีวศึกษาและมหาวิทยาลัย กระทรวงศึกษาธิการ ยกเว้นการศึกษาเฉพาะทางซึ่งอยู่ในความดูแลของกระทรวงอื่น โดยเมื่อเด็กจบการศึกษาในระดับประถมและมัธยมศึกษาแล้ว จะมีการคัดเลือกนักเรียนเพื่อเสนอกระทรวงศึกษาธิการให้เด็กได้เข้าศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น ได้แก่ 
• สายอาชีพ ใช้เวลาศึกษา ปี ในวิทยาลัยเทคนิคต่างๆ เช่น ทางด้านไฟฟ้า ก่อสร้าง บัญชี ป่าไม้ เป็นต้น
• มหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาที่สำคัญได้แก่
1. มหาวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์ (เวียงจันทน์) ใช้เวลาศึกษา ปี ขึ้นกับกระทรวงสาธารณสุข
2. มหาวิทยาลัยแห่งชาติ (ดงโดก) ใช้เวลาศึกษา ปี
3. สถาบันสรรพวิชา (National Polytechnic Institute) ใช้เวลาศึกษา ปี
การศึกษาในประเทศลาวนั้นจัดระบบการศึกษาเริ่มตั้งแต่ระดับอนุบาลและก่อนวัยเรียน โดยโรงเรียนในประเทศลาวมีทั้งโรงเรียนของรัฐบาลและเอกชน เปิดรับนักเรียนเมื่ออายุ ถึง ปี ใช้เวลาเรียน ปี มีระดับชั้นอนุบาล ถึง ระดับชั้นอนุบาล 3เมื่อจบจากระดับชั้นอนุบาลก็เลื่อนชั้นไปเรียนระดับชั้นประถมศึกษาต่อไป อัตราการรู้หนังสือในประเทศลาวใน พ.ศ. 2548 อยู่ที่73% (83% ชาย และ 63% หญิง)
8.ประเทศเวียดนาม
ปัจจุบันเวียดนามแบ่งลักษณะของการจัดการศึกษาไว้ ลักษณะ คือ 
1.  การศึกษาระดับก่อนประถมศึกษา (Pre-School Education)
ประกอบด้วยการเลี้ยงดูเด็ก สำหรับเด็กอายุ เดือนถึง ปี และอนุบาลสำหรับเด็กอายุ 3-5 ปี 
2.  การศึกษาสามัญ (5 - 4 – 3)
ระดับประถมศึกษาเป็นการศึกษาภาคบังคับ ปี ชั้น 1-5 
ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น คือชั้น 6-9
ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย คือชั้น 10-12
3. การศึกษาด้านเทคนิคและอาชีพ มีเทียบเคียงทั้งระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย
          4. การศึกษาระดับอุดมศึกษา แบ่งเป็นระดับอนุปริญญา (Associate degree) และระดับปริญญา
          5. การศึกษาต่อเนื่อง  เป็นการศึกษาสำหรับประชาชนที่พลาดโอกาสการศึกษาในระบบสายสามัญและสายอาชีพ
          การศึกษาสามัญ 12 ปี (General Education) ของเวียดนามนั้นเวียดนามมีวัตถุประสงค์ที่จะ ให้ประชาชนได้มีวิญญาณในความเป็นสังคมนิยม มีเอกลักษณ์ประจำชาติ และมีความสามารถในด้านอาชีพ
          ในอดีตการศึกษาสามัญของเวียดนามมีเพียง 10 ปีเท่านั้น และไม่มีอนุบาลศึกษามาก่อนจนถึงปีการศึกษา 2532 - 2533จึงมีการศึกษาถึงชั้นปีที่ ทั้งประเทศ ซึ่งได้เรียกการศึกษาสามัญ ปี ดังกล่าวนี้ว่าการศึกษาขั้นพื้นฐาน (Basic Education) และเมื่อได้ขยายไปถึงปีที่ 12 แล้วจึงได้เรียกการศึกษาสามัญ ปีสุดท้ายว่า มัธยมชั้นสูง (Upper Secondary School) ปี 2535-2536ระบบการศึกษาสามัญในเวียดนามจึงกลายเป็นระบบ 12 ชั้นเรียนทั้งประเทศ โดยเด็กที่เข้าเรียนในชั้นปีที่ จะมีอายุย่างเข้าปีที่6
          เมื่อเวียดนามได้ใช้ระบบการศึกษาเป็น 12 ปีแล้ว จำนวนนักเรียนในทุกระดับชั้นยังมีน้อย ดังนั้นปี 2534 สภาแห่งชาติของเวียดนามจึงได้ออกกฎหมายการกระจายการศึกษาระดับประถมศึกษา (Law of Universal Primary Education) ซึ่งถือเป็นกฎหมายฉบับแรกว่าด้วยการศึกษาของเวียดนาม


9.ประเทศสิงคโปร์
การศึกษาภาคบังคับของสิงคโปร์จะต้องเรียนรู้ ภาษาควบคู่กันไป ได้แก่ ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก และเลือกเรียนภาษาแม่ (Mother Tongue) อีก ภาษา คือ จีน (แมนดาริน) มาเลย์ หรือ ทมิฬ (อินเดีย)
รัฐบาลสิงคโปร์ให้ความสำคัญกับการศึกษามาก  โดยถือว่าประชาชนเป็นทรัพยากรที่สำคัญ  และมีค่าที่สุดของประเทศ  ดังนั้นรัฐบาลจึงได้ให้การอุดหนุนด้านการศึกษาจนเสมือนกับเป็นการศึกษาแบบให้เปล่า  โรงเรียนในระดับประถม  และมัธยมล้วนเป็นโรงเรียนของรัฐบาลหรือกึ่งรัฐบาล  สถานศึกษาของเอกชนในสิงคโปร์  มีเฉพาะในระดับอนุบาล  และโรงเรียนนานาชาติเท่านั้น
 

ระดับประถมศึกษาของสิงคโปร์แบ่งออกเป็น  ช่วง ได้แก่
1.  ชั้นประถมต้น เรียกว่า Foundation Stage  จะเรียน วิชาหลัก  คือ ภาษาอังกฤษ  ภาษาแม่   และคณิตศาสตร์ นอกจากนั้น จะมีวิชาดนตรี ศิลปหัตถกรรม หน้าที่พลเมือง สุขศึกษา สังคม และพลศึกษา
2.  ชั้นประถมปลาย เรียกว่า Orientation Stage นักเรียนจะถูกแยกออกเป็น กลุ่มทางภาษา คือ EM1. EM2.และEM3.การแยกนักเรียนเข้ากลุ่มทางภาษานั้น ขึ้นอยู่กับความสามารถทางภาษาของแต่ละคน เมื่อจบ ป.แล้วจะมีการสอบที่เรียกว่าPrimary School Leaving Examination (PSLE) ผลการเข้าสอบมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษา
การศึกษาในระดับมัธยมศึกษานั้น  จะมี 3หลักสูตรให้เลือกตามความสามารถ และความสนใจโดยใช้เวลา 4-5 ปี  หลักสูตรในระดับมัธยมศึกษา ได้แก่
       -หลักสูตรพิเศษ   (Special Course)
       -หลักสูตรเร่งรัด  (Express Course)
       -หลักสูตรปกติ    (Normal Course)
เมื่อจบหลักสูตรจะมีการสอบโดยหลักสูตรพิเศษ  และหลักสูตรเร่งรัดจะต้องผ่านประกาศนียบัตร  GCB(General Certificate of Education)  ในระดับ “O” Level  ส่วนหลักสูตรปกติจะต้องผ่าน GCB “N” Level  แต่ถ้าต้องศึกษาต่อในระดับเตรียมอุดมศึกษา  ก็ต้องสอบให้ผ่าน GCB “O” Level เช่นเดียวกัน
เมื่อจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาแล้ว  ผู้ที่สนใจเรียนสายวิชาชีพเทคนิค  หรืออาชีวศึกษา ก็สามารถแยกไปเรียนตามสถาบันต่างๆได้  ส่วนผู้ที่จะเรียนต่อในมหาวิทยาลัยก็จะเข้าศึกษาต่อใน Junior College อีก ปี เมื่อจบแล้วจะต้องสอบ GCE “A” Levelเพื่อนำผลคะแนนไปตัดสินการเข้าเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย  ผู้ที่เข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ก็อาจศึกษาในสายอาชีพ  หรือหางานทำต่อไป
มหาวิทยาลัย NUS(National University of Singapore)  จะให้การศึกษาครอบคลุมเกือบทุกสาขาวิชา  ทั้งแพทยศาสตร์ ทันตแพทย์  กฎหมาย  ศิลปะศาสตร์  วิทยาศาสตร์  วิศวกรรม สถาปัตยกรรม  และการบริหารธุรกิจ  ส่วนมหาวิทยาลัยNanyang(Nanyang Technological University)  จะเน้นการศึกษาด้านวิศวกรรมศาสตร์สาขาต่างๆ  รวมทั้งวิทยาศาสตร์ประยุกต์ สาขาธุรกิจ  และการบัญชี  สำหรับมหาวิทยาลัย SMU(Singapore Management University)  จะเน้นเรื่องธุรกิจการจัดการ
วิทยาลัยเทคนิค(Polytechnic)  มี แห่งได้แก่ Singapore Polytechnic, Ngee Ann Polytechnic, Temasek Polytechnicและ Nanyang Polytechnic  ส่วนวิทยาลัยผลิตครูมีอยู่เพียงแห่งเดียว คือ National Institute of Education นอกจากนี้ ยังมีInstitute of Technical Education : ITE เป็นสถาบันที่จัดการศึกษาสำหรับผู้ต้องการทักษะทางช่าง  และช่างผีมือ


10.ประเทศอินโดนีเซีย

          ระบบการศึกษาในโรงเรียนประกอบด้วยระดับการศึกษาขั้นต่างๆ ดังนี้คือ การศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษาชั้นมัธยมและการศึกษาระดับสูง นอกเหนือจากระดับการศึกษาดังกล่าวข้างต้นแล้ว ยังมีการศึกษาก่อนวัยเรียนเพื่อเตรียมความพร้อมของเด็กด้วย
          การศึกษาขั้นพื้นฐาน ตามเกณฑ์จะใช้เวลา ปีโดยเรียนชั้นประถมศึกษา ปีและชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ปี มีเป้าหมายเพื่อจัดหาทักษะพื้นฐานในการพัฒนาตนเองในฐานะที่เป็นปัจเจกชน สมาชิกในสังคม ประชากรในประเทศและโลก เท่าๆ กับที่เตรียมก้าวเข้าสู่การศึกษาระดับมัธยมศึกษา
          โรงเรียนประถมศึกษาจะกำหนดโครงการการศึกษาเป็นเวลา ปีซึ่งโรงเรียนจะมีลักษณะแตกต่างกัน แบบ คือ โรงเรียนประถมศึกษาแบบทั่วไป (general primary school) และโรงเรียนประถมศึกษาพิเศษสำหรับเด็กพิการ (special primary school for handicapped children) สำหรับโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นจะกำหนดการเรียนเป็นเวลา ปีและมีลักษณะแบบเดียวกับของโรงเรียนระดับประถมศึกษาคือ มีโรงเรียนแบบทั่วไปและโรงเรียนพิเศษสำหรับเด็กพิการ
          โรงเรียนมัธยมศึกษา  รับผู้จบการศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ใช้เวลาเรียน ปี โดยมีรูปแบบของการจัดการศึกษาหลายแบบ เช่น แบบสามัญทั่วไป แบบสามัญวิชาชีพ แบบสามัญทางศาสนา แบบสามัญบริการ และแบบการศึกษาพิเศษ วัตถุประสงค์ของการจัดการศึกษามีดังนี้คือ
          1.พัฒนาความรู้แก่นักเรียนให้ได้ศึกษาต่อเนื่องไปถึงขั้นสูง และเพื่อพัฒนาตนเองให้สอดคล้องกับการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและศาสตร์แขนงต่างๆ
          2.พัฒนาความสามารถของนักเรียนในฐานะเป็นสมาชิกของสังคม ให้มีปฏิสัมพันธ์ต่อสังคม วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ
          การศึกษาระดับมัธยมศึกษาทั่วไป  หลักสูตรประกอบด้วยโครงการวิชาการสอนทั่วไปและการสอนเฉพาะวิชา เพื่อเตรียมความรู้และพัฒนาทักษะสำหรับการศึกษาในระดับอุดมศึกษาต่อไป
          การศึกษาระดับมัธยมศึกษาทางวิชาชีพ  เหมาะสำหรับผู้ต้องการเข้าสู่วิชาชีพ สามารถแยกการศึกษานี้ออกเป็น กลุ่มในสาขาวิชาชีพต่างๆ ดังนี้คือ
          • เกษตรกรรมและการป่าไม้
          • เทคโนโลยีและอุตสาหกรรม
          • ธุรกิจและการจัดการ
          • ความเป็นอยู่ของชุมชน
          • การท่องเที่ยว
          • ศิลปหัตถกรรม
          การศึกษาระดับมัธยมศึกษาด้านศาสนา เป็นการจัดการศึกษาด้านศาสนาโดยเฉพาะ
การศึกษาระดับมัธยมศึกษาแบบบริการ เป็นการจัดการศึกษาเพื่อเตรียมความรู้ความสามารถสำหรับผู้ที่จะเข้าเป็นพนักงานหรือข้าราชการ
          การศึกษาระดับมัธยมศึกษาพิเศษ   เป็นการจัดการศึกษาสำหรับนักเรียนที่พิการทางร่างกายและ/หรือจิตใจ


การศึกษาระดับสูง หรืออุดมศึกษา  เป็นการขยายไปจากการศึกษาระดับมัธยมศึกษา ระดับปริญญาตรีใช้เวลาเรียน 3-4ปี ปริญญาโท ปี และปริญญาเอก ปี สถาบันที่ให้การศึกษาระดับสูงนี้มีลักษณะเป็นสถาบันวิชาการ โพลีเทคนิค สถาบันการศึกษาและมหาวิทยาลัย